ชีวิตเราจะยืนยาวอยู่ได้ นอกจากการรักษาสุขภาพของตัวเองให้ดีแล้ว เรื่องของสภาพแวดล้อมหรือสิ่งแวดล้อมรอบตัว ก็ถือว่ามีผลเช่นกัน ถ้าหากสิ่งแวดล้อมไม่ดี อากาศเป็นพิษ หรือมีมลภาวะอย่างอื่นเข้ามารบกวนชีวิตเรา แน่นอนว่าย่อมจะส่งผลเสียให้กับคุณภาพชีวิตของคุณให้น้อยลงกว่าเดิม สุขภาพก็แย่ลงกว่าเดิมแน่นอน การหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อม จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะให้ความสำคัญ
หลายคนอาจจะคิดว่าเรื่องเหล่านี้ควรจะเป็นเรื่องของหน่วยงานอย่างเดียว ที่จะทำให้สิ่งแวดล้อมกลับมาเหมือนเดิม แต่อยากจะบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของทุกคนทั้งหมด เพราะว่าเราอาศัยอยู่บนโลกเหมือนกัน เพื่อให้มองเห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ลองมาดูเหตุผลกันว่า เพราะอะไรเราถึงต้องมาช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม และดูแลให้ดีกว่าเดิม
นั่นก็คือบรรดาสัตว์ป่า หรือสัตว์น้ำทั้งหลายนั่นเอง เพราะว่าเมื่อสิ่งแวดล้อมถูกทำลาย พวกสัตว์เหล่านี้มักจะอยู่ไม่ได้และจะสูญพพันธ์ไปจากโลกทันที เหมือนกับสัตว์ป่าหลายๆ ชนิด ที่ทนกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมไม่ จนต้องสูญพันธ์ไปหลายชนิด
นอกจากสัตว์ที่ต้องสูญพันธ์แล้ว บรรดาพืชและต้นไม้บางชนิดก็อาจจะต้องหายไปจากโลกเช่นกัน ถ้าหากสิ่งแวดล้อมถูกทำลาย การรักษาสิ่งแวดล้อมจึงเป็นหนทางเดียวเท่านั้น ที่จะช่วยป้องกันไม่ให้พืชเหล่านี้ต้องตาย ที่สำคัญก็คือ ต้นไม้บางต้นต้องอาศัยระยะเวลาหลายสิบปี ถึงจะโตได้ และถ้าปลูกใหม่ก็แสดงว่าต้องใช้เวลาหลายสิบปีเหมือนกัน ที่จะฟื้นฟู
ปัจจุบันสัตว์ป่าบางชนิดก็นับว่าหาได้ยากแล้ว และป่าที่เป็นป่าจริงๆ ก็เหลือน้อยเต็มทีเช่นกัน ถ้าหากไม่รักษาเอาไว้ ต่อไปในภายภาคหน้า ลูกหลานของเราก็คงจะไม่มีสัตว์ หรือว่ามีธรรมชาติสวยงามไว้ให้ชม การรักษาเอาไว้จึงเป็นทางเดียว ที่จะคงอยู่ของสัตว์และป่าเอาไว้ได้
วิธีการทดแทนก็คือการปลูกป่าไม้ทดแทน ถึงแม้ว่าจะทำได้ไม่มี แต่ก็ควรทำในส่วนที่ทำได้ก็ดี
วิธีการรักษาก็คือการช่วยกันดูแลไม่ให้ขยะลงไปสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ หรือว่าเข้าไปอยู่ในป่า ที่อาจจะเกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม หรือถ้าเห็นขยะตามแม่น้ำ ป่าเขาต่างๆ ก็ควรช่วยเก็บ
การใช้ของที่เป็นสาเหตุของการทำลายธรรมชาติ เช่น ขยะที่เกิดจากพลาสติก ถ้าหากเราไม่ใช้ถึงพพลาสติกเลย ก็จะช่วยสิ่งแวดล้อมได้มากที่เดียว เพียงแค่ทุกคนเปลี่ยนมาใช้ตะกร้า หรือว่าถุงผ้าเท่านั้น
สิ่งที่ควรประหยัดก็คือเรื่องของการใช้ไฟฟ้า เพราะเมื่อเราใช้ไฟฟ้าน้อยลง การผลิตก็จะน้อยลงกว่าเดิม ทำให้ไม่ต้องไปรบกวนธรรมชาติมากนัก ดังนั้นหากมีอุปกรณ์ไฟฟ้าอะไรที่ไม่จำเป็น ก็ควรปิดเอาไว้ หรือใช้ให้น้อยลงจะดีที่สุด
ตอนนี้เราก็ได้เห็นความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว ว่าเราจะทำไปเพื่ออะไร ดังนั้นหากมีข้อไหนที่เราสามารถทำได้ ก็ควรทำทันที เพื่อเป็นการช่วยโลกของเรา และตัวเราเองด้วย ถ้าทุกบ้านทุกคนช่วยกัน ปัญหาสิ่งแวดล้อมจากที่เลวร้าย ก็จะกลายเป็นดีได้ไม่ยากเกินไป
สิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา ถ้าหากดีทุกคนก็จะได้รับผลดีไปด้วย ถ้าสิ่งแวดล้อมมีปัญหาหรือมีมลภาวะต่างๆ ทุกคนก็จะได้รับผลกระทบได้ด้วยเช่น เพราะว่าปัญหาเหล่านี้ไม่ได้เลือกเกิดกับคนใดคนหนึ่ง ถ้าเกิดขึ้นมาแล้ว ทุกคนก็ต้องได้รับปัญหากันถ้วนหน้า การหันมาดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะช่วยกันทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกวันนี้เราจะเห็นปัญหาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมได้ชัดที่สุด
วิธีการรักษาสิ่งแวดล้อมสำหรับคนคนหนึ่ง อาจจะไม่ได้ทำให้เห็นผลที่ชัดเจนเท่าไหร่นัก ก็เปรียบเหมือนกับหยดน้ำหยดเดียวนั่นเอง แต่ถ้าทุกคนเลือกที่จะช่วยกันทำเหมือนกันทั้งหมด เรื่องเหล่านี้ก็จะกลายเป็นผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ได้ แล้วเราจะช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างไรบ้าง
การกำจัดขยะตามสถานที่ต่างๆ เช่น แม่น้ำลำคลอง ตามข้างทางหรือในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติต่างๆ จะช่วยให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ เพราะว่าถ้าสิ่งแวดล้อมมีขยะมากเกินไป หรือในน้ำมีพลาสติกมากไป สัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ก็คงไม่เหลือแน่ ถ้ามีการรณรงค์ช่วยกันเก็บขยะ ก็จะเป็นการช่วยชีวิตของสัตว์เหล่านั้นได้
ไอเสียจากยานพาหนะเป็นสาเหตุหลักที่สร้างความเสียหายให้กับสิ่งแวดล้อมได้มากที่สุด เนื่องจากปัจจุบันมีรถยนต์จำนวนมากที่วิ่งอยู่บนท้องถนน เราอาจจะไม่สามารถบอกให้รถเหล่านั้นหยุดวิ่งได้ แต่เราเลือกที่จะช่วยกันลดการใช้เชื้อเพลิงได้ โดยการใช้เฉพาะในยามจำเป็นเท่านั้น ก็จะช่วยให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นได้เช่นกัน โดยเฉพาะมลภาวะทางอากาศที่ลดลง
พลาดสติกถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกที่สร้างหายนะให้กับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทะเล ที่ทำให้สัตว์จำนวนมากต้องลดจำนวนลง เพราะว่ามีขยะมากเกินไป และอายุของพลาสติกก็นานหลายร้อยปีกว่าจะย่อยสลาย เมื่อสัตว์เหล่านั้นไปกินพลาดสติก ก็จะทำให้สัตว์ตายลง หรือถ้าคนเอาสัตว์น้ำพวกนั้นมากินต่อ คนก็จะได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน
ปัจจุบันมีการรณรงค์ให้ทุกบ้านหันมาใช้หลอดประหยัดพลังงานกันมากขึ้น เพื่อเป็นการลดการใช้ไฟฟ้า ดังนั้นถ้าบ้านของคุณยังมีหลอดไฟแบบธรรมดา ที่กินไฟเยอะๆ อยู่ ก็ควรเปลี่ยนมาเป็นหลอดไฟแบบประหยัดพลังงาน เพื่อเป็นการช่วยสิ่งแวดล้อมได้อีกทาง
การปลูกต้นไม้เป็นหนทางที่จะช่วยสิ่งแวดล้อมได้ แต่ต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าที่จะเห็นผลลัพธ์ และไม่จำเป็นจะต้องไปทำในกิจกรรมปลูกป่าเท่านั้น เราอาจจะเริ่มต้นด้วยปลูกในพื้นที่ที่เรามีอยู่ก็ได้
สาเหตุที่ทำให้เกิดมลภาวะที่เกิดจากการเผาขยะ หรือเผาไร่ ก็เพราะว่าคนไม่ได้กลัวกฎหมาย แต่ถ้ามีกฎที่เอาจริงในเรื่องเหล่านี้ ก็จะเป็นการลดปัญหาสิ่งแวดล้อมลงไปได้ เพราะการเผาไร่นา หรือเผาขยะ เป็นสิ่งที่คนบางกลุ่มทำอยู่เสมอ
เนื่องจากการช่วยฟื้นฟูสภาพแวดล้อม เราไม่สามารถทำแล้วเห็นผลได้เลย จะต้องใช้ระยะเวลาที่นานพอสมควร ดังนั้นหากมีสิ่งไหนที่เราเริ่มทำได้ และเป็นสิ่งที่จะช่วยสิ่งแวดล้อมให้กลับมาดีขึ้น ก็ควรจะทำทันที เพื่อให้เห็นผลในวันอนาคตได้เร็วขึ้น
ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ทั่วโลก และได้รับผลกระทบกันทั่วหน้า เพราะถ้าหากสิ่งแวดล้อมถูกทำลาย ความเป็นอยู่ของคนและสัตว์ที่อาศัยอยู่บนโลก ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย อย่างเช่นในประเทศไทยของเราทุกวันนี้ ต้องบอกว่ามีปัญหาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมไม่น้อยเช่นกัน ส่งผลทำให้สุขภาพแย่ลงกว่าเดิมมาก
ดังนั้นถ้าหากอยากจะให้สิ่งแวดล้อมกลับมาเป็นเหมือนเดิม ก็ต้องเริ่มต้นที่ตัวเราเท่านั้น ถ้าหากทุกคนช่วยกันทำในสิ่งที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ปัญหาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมก็จะลดน้อยลง และอาจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ในไม่ช้า แล้วเราจะช่วยกันได้ด้วยวิธีไหนบ้าง
พลังงานที่สำคัญในชีวิตเราก็คือไฟฟ้านั่นเอง ที่ทุกบ้านล้วนต้องใช้ การช่วยกันประหยัดพลังงาน จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้สิ่งแวดล้อมกลับมาเหมือนเดิมได้ เมื่อคนใช้ไฟฟ้าน้อยลง กำลังกายผลิตก็ต้องลดลง ผลที่ตามมาก็ได้ สภาพแวดล้อมได้รับผลกระทบน้อยลง ดังนั้นเวลาที่เราอยู่บ้าน ก็ควรใช้ไฟฟ้าในยามจำเป็นเท่านั้น อันไหนที่ประหยัดได้ก็ควรประหยัด หรือปิดไปเลยจะดีที่สุด
ของใช้บางอย่างสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำใหม่ได้เรื่อยๆ ซึ่งข้อดีก็คือจะทำให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก ไม่ต้องซื้อซ้ำ ที่เห็นชัดที่สุดก็คือเรื่องของการใช้พลาสติก ถ้าหากเรานำกลับมาใช้ใหม่ ก็จะเป็นการลดจำนวนพลาสติกบนโลกลงไปได้มาก หรือถ้าให้ดีให้เปลี่ยนมาเป็นการใช้ถุงผ้าเลยจะดีที่สุด เพราะใช้ได้นานโดยที่ไม่ชำรุด
การแยกขยะก็เป็นส่วนที่จะช่วยสิ่งแวดล้อมได้เช่นกัน เนื่องจากขยะบางชนิดสามารถสร้างผลเสียให้กับสิ่งแวดล้อมในวงกว้างได้ และต้องได้รับการกำจัดอย่างถูกวิธี ถ้าหากปล่อยให้ปะปนกับขยะอย่างอื่น อาจจะสร้างความเสียหายให้กับสิ่งแวดล้อมได้อย่างมาก ดังนั้นเราควรเริ่มต้นแยกขยะตั้งแต่อยู่ที่บ้านเลย แม้อยู่นอกบ้านก็ควรทิ้งขยะให้ตรงกับที่ทางการได้จัดไว้ให้
ถ้าหากมีลูกหลานในบ้าน ก็ควรเริ่มปลูกฝังเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อมให้กับเด็กตั้งแต่อยู่ที่บ้านเลย พร้อมทั้งบอกเหตุผลว่าทำไมถึงต้องทำ ถ้าไม่ทำจะเกิดผลเสียอย่างไร และตัวเราเองจะได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง จะเป็นการสร้างความตระหนักรู้ จนเด็กเกิดความเข้าใจ และจะเลือกทำในสิ่งที่เห็นว่าสมควรเท่านั้น และเมื่อทำบ่อยเข้า ก็จะกลายเป็นนิสัยไปโดยอัตโนมัติ
การเผาขยะถือว่าเป็นปัญหาอันดับต้นๆ ที่ทำลายสิ่งแวดล้อมได้มากที่สุด เพราะคนส่วนใหญ่มักจะเผาขยะ แทนการเอาขยะมาทิ้งให้ถูกที่ และเป็นวิธีการกำจัดขยะที่ง่ายที่สุด เมื่อคนส่วนมากเลือกใช้วิธีนี้ในการกำจัดขยะ ผลกระทบของสิ่งแวดล้อมจึงแผ่ขยายไปในวงกว้าง และทุกคนก็ได้รับผลกระทบทั้งหมด แม้จะไม่ได้ทำก็ตาม
การช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมอาจจะไม่ใช่เรื่องที่คนคนเดียวสามารถทำได้ จะต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายๆ เท่านั้นจึงจะเห็นผล ซึ่งถ้าหากทุกคนช่วยกันทำตามข้อแนะนำที่ได้ระบุเอาไว้ข้างต้น ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เป็นปัญหาใหญ่ ก็จะกลายเป็นเรื่องเล็กได้เช่นกัน